เอ็ม1 เอบรามส์
รถถังหลัก / From Wikipedia, the free encyclopedia
เอ็ม1 เอบรามส์ (อังกฤษ: M1 Abrams) เป็นรถถังหลักรุ่นที่สามของสหรัฐอเมริกา ชื่อมีที่มาจากพลเอกเครกตัน เอบรามส์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐในสงครามเวียดนามตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511–2515 มันมีอาวุธที่ดี เกราะขนาดหนัก และคล่องตัวตามที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำสงครามยานเกราะยุคใหม่[5] จุดเด่นคือเครื่องยนต์กังหันแก๊สที่ทรงพลัง การใช้เกราะผสม และการเก็บกระสุนแยกต่างหากจากห้องของลูกเรือ เป็นหนึ่งในรถถังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประจำการ ด้วยน้ำหนักเกือบ 62 ตัน
บทบาท | รถถังหลัก |
---|---|
สัญชาติ | สหรัฐ |
ประจำการ | พ.ศ. 2523 – ปัจจุบัน |
ผู้ใช้งาน | ดูที่ประเทศผู้ใช้งาน |
สงคราม | สงครามอ่าว สงครามคอซอวอ สงครามอิรัก สงครามอัฟกานิสถาน |
ผู้ออกแบบ | ไครสเลอร์ ดีเฟนซ์(ปัจจุบันเป็น เจเนรัล ไดนามิกส์) |
บริษัทผู้ผลิต | ลิมา อาร์มี แทงค์ แพลนท์ (พ.ศ. 2523-ปัจจุบัน)[1] ดีทรอยท์ อาร์เซนอล แทงค์ แพลนท์ (พ.ศ. 2525-2539) |
มูลค่า | 65.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เอ็ม1เอ2) (88.92 ล้าน เมื่อปรับค่าเงิน พ.ศ. 2559)[2] |
จำนวนที่ผลิต | มากกว่า 10800 คัน[1] |
แบบอื่น | ดูที่รุ่นต่าง ๆ |
น้ำหนัก | 68.3 ตัน |
ความยาว | รวมปืนที่ยื่นออกไปข้างหน้า 9.77 เมตร[3] ตัวถัง 7.93 เมตร |
ความกว้าง | 3.66 เมตร |
ความสูง | 2.44 เมตร |
ลูกเรือ | 4 นาย (ผู้บังคับการรถถัง พลปืน พลบรรจุ และพลขับ) |
เกราะ | เกราะช็อบแฮม เกราะอาร์เอช แผ่นเหล็กป้องกันยูเรเนียม |
อาวุธหลัก | ปืนใหญ่ลำกล้องเกลียวเอ็ม68 ขนาด 105 ม.ม. (เอ็ม1) ปืนใหญ่ปัจจุบันไร้เกลียวเอ็ม256 ขนาด 120 ม.ม.(เอ็ม1เอ1 เอ็ม1เอ2 เอ็ม1เอ2เอสอีพี) |
อาวุธรอง | ปืนกลหนักเอ็ม 2 บราวนิง ขนาด 12.7 ม.ม.หนึ่งกระบอก ปืนกลเอ็ม240 ขนาด 7.62 ม.ม.สองกระบอก (หนึ่งกระบอกบนฝาครอบ หนึ่งกระบอกข้างปืนหลัก) |
เครื่องยนต์ | ฮันนีเวลล์ เอจีที1500ซี ให้แรงขับ 1,500 แรงม้า |
กำลัง/น้ำหนัก | 24.5 แรงม้า/ตัน |
ระบบส่งกำลัง | อัลลิสัน ดีโอเอ เอ็กซ์-1100-3บี |
ระบบช่วงล่าง | ทอร์ชั่นบาร์ |
ระยะห่างระหว่างตัวถังกับพื้น | 0.48 เมตร (เอ็ม1 เอ็ม1เอ1) 0.43 เมตร (เอ็ม1เอ2) |
ความจุเชื้อเพลิง | 500 แกลลอน |
พิสัย | 465.29 กิโลเมตร[4] |
ความเร็ว | บนถนน: 68-72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกถนน: 40.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
เอ็ม1 เอบรามส์ได้เข้าประจำการในกองทัพสหรัฐเมื่อปี พ.ศ. 2523 โดยเข้ามาแทนที่เอ็ม60 แพทตัน[6] อย่างไรก็ตามมันก็ทำงานร่วมกับเอ็ม60เอรุ่นที่ได้รับการพัฒนามาตลอดทศวรรษ ซึ่งเข้าประจำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 รุ่นหลัก ๆ ของเอ็ม1 มีสามรุ่นด้วยกัน คือ เอ็ม1 เอ็ม1เอ1 และเอ็ม1เอ2 โดยมีการพัฒนาด้านอาวุธ การป้องกัน และระบบไฟฟ้า การพัฒนาเหล่านี้มีเพื่อทำให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ในปัจจุบันกำลังมีการพัฒนาเอ็ม1เอ3 มันเป็นรถถังประจัญบานหลักของกองทัพบกสหรัฐและเหล่านาวิกโยธินสหรัฐ รวมทั้งกองทัพบกอียิปต์ กองทัพบกคูเวต กองทัพบกซาอุดิอาระเบีย กองทัพบกออสเตรเลีย และกองทัพบกอิรัก เอ็ม1 เอบรามส์จะประจำการจนถึงคริสต์ทศวรรษ 2050 ประมาณ 70 ปีหลังจากที่เข้าประจำการครั้งแรก