สงครามอิตาลี-อะบิสซิเนียครั้งที่สอง
From Wikipedia, the free encyclopedia
สงครามอิตาลี-อะบิสซิเนียครั้งที่สอง หรืออีกชื่อหนึ่งคือ สงครามอิตาลี-เอธิโอเปียครั้งที่สอง เป็นสงครามอาณานิคมซึ่งเกิดขึ้นระหว่างกองทัพราชอาณาจักรอิตาลีกับจักรวรรดิเอธิโอเปีย (หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ "อะบิสซิเนีย") โดยเริ่มต้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1935 และสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1936 ผลของสงครามจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเอธิโอเปียและถูกอิตาลีผนวกเข้าเป็นดินแดนอาณานิคมแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ "แอฟริกาตะวันออกของอิตาลี" ( อังกฤษ: Italian East Africa, อิตาลี: Africa Orientale Italiana)
สงครามอิตาลี-อะบิสซิเนียครั้งที่สอง | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ทหารเกณฑ์อิตาลีขึ้นรถไฟที่เมืองมอนเตวาร์ชีเพื่อเข้าร่วมสงครามอิตาลี-อะบิสซิเนียครั้งที่สอง (ค.ศ. 1935) | |||||||||
| |||||||||
คู่สงคราม | |||||||||
ราชอาณาจักรอิตาลี | จักรวรรดิเอธิโอเปีย | ||||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||||
เบนิโต มุสโสลินี พระเจ้าวิตโตรีโอ เอมานูเอเลที่ 3 แห่งอิตาลี เอมีลีโอ เด โบโน ปีเอโตร บาโดลโย โรดอลโฟ กราซีอานี โจวันนี เมสเซ |
จักรพรรดิเฮลี เซลาสซี | ||||||||
กำลัง | |||||||||
พลรบ ~500,000 คน (Approx. 100,000 mobilized) อากาศยาน ~595 ลำ[1] รถถัง ~795 คัน[1] |
พลรบ 800,000 คน (~330,000 mobilized) อากาศยาน ~3 ลำ รถถัง ~3 คัน | ||||||||
ความสูญเสีย | |||||||||
ตาย 10,000 คน1 (ประมาณการ พ.ค. 1936) [2] บาดเจ็บ 44,000 คน (ประมาณการ พ.ค. 1936) [3] ตาย 9,555 คน2 (ประมาณการในปี 1936-1940) [4] ป่วย/เจ็บ144,000 คน (ประมาณการในปี 1936-1940) [5] |
ตาย ~275,000 คน, บาดเจ็บ ~500,000 คน [nb 1] | ||||||||
1Official pro-Fascist Italian figures are around 3,000, which Alberto Sbacchi considers deflated.[2] |
ในทางการเมือง สงครามครั้งนี้เป็นเครื่องหมายจดจำที่โดดเด่นที่สุดถึงความอ่อนแออันเป็นปกติวิสัยขององค์การสันนิบาตชาติ วิกฤตการณ์อะบิสซิเนียในปี ค.ศ. 1934 มักถูกมองว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงความไร้ประสิทธิภาพของสันนิบาตชาติ เช่นเดียวการที่จักรวรรดิญี่ปุ่นยึดครอง 3 มณฑลของจีนในกรณีมุกเดนเมื่อปี ค.ศ. 1931 ทั้งอิตาลีและเอธิโอเปียล้วนเป็นชาติสมาชิกของสันนิบาต แต่สันนิบาตชาติก็ไม่สามารถปกป้องเอธิโอเปียให้พ้นจากการคุกคามของอิตาลีได้เมื่อการณ์ปรากฏชัดเจนว่าอิตาลีได้ละเมิดต่อบทบัญญัติของสันนิบาตชาติมาตรา 10 อนึ่ง สงครามครั้งนี้ยังถูกจดจำด้วยการใช้ก๊าซพิษทำสงครามอย่างผิดกฎหมายอย่างก๊าซมัสตาร์ด (mustard gas) และสารฟอสจีน (Phosgene) โดยฝ่ายกองทัพอิตาลี
ผลลัพธ์ในเชิงบวกของสงครามต่อฝ่ายอิตาลีได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกับความนิยมระดับสูงสุดต่อลัทธิฟาสซิสต์ของมุสโสลินีในเวทีนานาชาติ[7] ผู้นำในหลายประเทศได้ยกย่องความสำเร้จที่เกิดขึ้นในครั้งนี้