พรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมัน
From Wikipedia, the free encyclopedia
พรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมัน[2] (เยอรมัน: Nationalsozialistische Deutsche Arbeiterpartei, ย่อ: NSDAP) หรือที่นิยมเรียกย่อว่า พรรคนาซี เป็นพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด[3][4] ซึ่งดำรงคงอยู่ในเยอรมนี ระหว่างปี ค.ศ. 1920 และ ค.ศ. 1945 ซึ่งได้สร้างและให้การสนับสนุนอุดมการณ์ชาติสังคมนิยม เดิมคือพรรคกรรมกรเยอรมัน ซึ่งดำรงคงอยู่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1919 ถึง 1920 พรรคนาซีเกิดขึ้นมาจากชาวเยอรมันที่เป็นนักชาติสังคมนิยม ผู้เหยียดเชื้อชาติ และวัฒนธรรมจากกองกำลังกึ่งทหารไฟรคอร์ที่เป็นประชานิยม ซึ่งได้ต่อสู้กับการก่อการกำเริบของฝ่ายคอมมิวนิสต์ในเยอรมนี ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง[5] พรรคนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงพวกกรรมกรออกจากลัทธิคอมมิวนิสต์และเข้าสู่ลัทธิชาตินิยมแบบ völkisch[6] ในช่วงแรก กลยุทธ์ทางการเมืองของนาซีได้มุ่งเป้าไปที่การต่อต้านธุรกิจขนาดใหญ่ ต่อต้านชนชั้นกลาง และวาทศิลป์ต่อต้านทุนนิยม แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะถูกมองข้ามไปในภายหลังเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำทางธุรกิจ และในปี ค.ศ. 1930 จุดสนใจหลักของพรรคได้เปลี่ยนไปเป็นการต่อต้านชาวยิว และต่อต้านลัทธิมาร์กซิสต์[7]
พรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมัน Nationalsozialistische Deutsche Arbeiterpartei | |
---|---|
ฟือเรอร์ | อันโทน เดร็คส์เลอร์ (1920–1921) อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (1921–1945) มาร์ติน บอร์มันน์ (1945) |
ผู้ก่อตั้ง | อันโทน เดร็คส์เลอร์ |
คำขวัญ | "Ein Volk, ein Reich, ein Führer" ("หนึ่งชน, หนึ่งไรช์, หนึ่งฟือเรอร์") (ไม่เป็นทางการ) |
ก่อตั้ง | 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1920 (1920-02-24) |
ถูกยุบ | 10 ตุลาคม ค.ศ. 1945 (1945-10) |
ก่อนหน้า | พรรคกรรมกรเยอรมัน |
ที่ทำการ | ทำเนียบน้ำตาล มิวนิก เยอรมนี |
หนังสือพิมพ์ | เฟิลคีเชอร์เบโอบัคเทอร์ |
ฝ่ายนักเรียนนักศึกษา | สันนิบาตนักเรียนชาติสังคมนิยมเยอรมัน |
ฝ่ายเยาวชน | ยุวชนฮิตเลอร์ |
ฝ่ายทหาร | ชตวร์มอัพไทลุง ชุทซ์ชตัฟเฟิล |
ส่วนกีฬา | สันนิบาติชาติสังคมนิยมแห่งไรซ์สำหรับการออกกำลังทางกายภาพ |
ฝ่ายสตรี | สันนิบาตสตรีชาติสังคมนิยม |
จำนวนสมาชิก | น้อยกว่า 60 คน (1920) 8.5 ล้านคน (1945) |
อุดมการณ์ | ชาติสังคมนิยม |
จุดยืน | ขวาจัด |
สี | สีดำ, สีขาว, สีแดง[1] สีน้ำตาล |
เพลง | "เพลงฮอสท์เว็สเซิลลีท" |
ธงประจำพรรค | |
การเมืองเยอรมนี รายชื่อพรรคการเมือง การเลือกตั้ง |
ทฤษฏีการเหยียดเชื้อชาติอันเป็นศูนย์กลางของลัทธิชาติสังคมนิยม ถูกแสดงออกผ่านแนวคิดที่ชื่อว่า "ประชาชุมชน" (Volksgemeinschaft)[8] พรรคได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อรวบรวมชาวเยอรมันที่"เป็นที่พึงปรารถนาทางเชื้อชาติ" เป็นสหายร่วมชาติ ในขณะที่มีการยกเว้นผู้ที่ถูกพิจารณาว่า เป็นผู้คัดค้านทางการเมือง ผู้บกพร่องทางร่างกายหรือสติปัญญา หรือเชื้อสายต่างชาติ (Fremdvölkische)[9] นาซีได้พยายามที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับชาวเจอร์แมนิก ซึ่งเป็น"ชาวอารยันที่เป็นชนชาติปกครอง" ผ่านทางความบริสุทธิ์ทางเชื้อชาติและสุพันธุศาสตร์ โครงการสวัสดิการทางสังคมในวงกว้าง และการอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาโดยรวมของสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งสามารถเสียสละเพื่อประโยชน์ของรัฐในนามของประชาชน เพื่อปกป้องความบริสุทธิ์และความแข็งแกร่งของเชื้อสายอารยัน นาซีได้พยายามกำจัดชาวยิว ชาวโรมานี ชาวโปล และชาวสลาฟอื่น ๆ เป็นส่วนใหญ่ พร้อมกับผู้พิการทางร่างกายและทางจิตใจ พวกเขาได้ระงับสิทธิและแบ่งแยกพวกรักร่วมเพศ ชาวแอฟริกัน พยานพระยะโฮวา และฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง[10] การประหัตประหารได้มาถึงจุดสูงสุด เมื่อรัฐเยอรมันที่ถูกควบคุมโดยพรรคได้กำหนดแนวทางมาตรการสุดท้าย - ระบบอุตสาหกรรมของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ซึ่งสามารถสังหารชาวยิวได้ราว 6 ล้านคน และเหยื่อเป้าหมายอื่น ๆ อีกนับล้าน ซึ่งในสิ่งที่เรียกกันว่า ฮอโลคอสต์[11]
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำพรรค ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีเยอรมนีโดยประธานาธิบดีเพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค เมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1933 ฮิตเลอร์ได้จัดตั้งระบอบเผด็จการขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งถูกเรียกว่า ไรช์ที่สาม[12][13][14][15] ภายหลังความปราชัยของไรช์ที่สามในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่สองในยุโรป พรรคนี้ได้ถูก"ประกาศว่าผิดกฎหมาย" โดยฝ่ายสัมพันธมิตร ที่ได้ดำเนินการขจัดนาซีในช่วงปีหลังสงคราม ทั้งในเยอรมนีและดินแดนที่ถูกยึดครองโดยเยอรมนี การใช้สัญลักษณ์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพรรค ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในหลายประเทศในยุโรป รวมทั้งเยอรมนีและออสเตรีย