ดาวศุกร์
From Wikipedia, the free encyclopedia
ดาวศุกร์ (อังกฤษ: Venus) เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่ 2 เมื่อมองจากโลกในตอนกลางคืน ดาวศุกร์เป็นวัตถุท้องฟ้าซึ่งสว่างรองลงมาจากดวงจันทร์[2][3] ดาวศุกร์มีวงโคจรอยู่ภายในวงโคจรของโลก ทำให้เมื่อสังเกตแล้วจะไม่ปรากฏว่าห่างจากดวงอาทิตย์มากนัก กล่าวคือ จะเห็นในตอนหัวค่ำทางทิศตะวันตก เรียกว่า "ดาวประจำเมือง" หรือเห็นในตอนเช้ามืดทางทิศตะวันออก เรียกว่า "ดาวประกายพรึก" หรือ "ดาวรุ่ง"
ภาพดาวศุกร์จาก ยานมาริเนอร์ 10 | |||||||
ลักษณะของวงโคจร | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ต้นยุคอ้างอิง J2000 | |||||||
ระยะจุดไกล ดวงอาทิตย์ที่สุด: | 108,941,849 กม. 0.72823128 หน่วยดาราศาสตร์ | ||||||
ระยะจุดใกล้ ดวงอาทิตย์ที่สุด: | 107,476,002 กม. 0.71843270 หน่วยดาราศาสตร์ | ||||||
กึ่งแกนเอก: | 108,208,926 กม. 0.72333199 หน่วยดาราศาสตร์ | ||||||
เส้นรอบวง ของวงโคจร: | 0.680 เทระเมตร (4.545 หน่วยดาราศาสตร์) | ||||||
ความเยื้องศูนย์กลาง: | 0.00677323 | ||||||
คาบดาราคติ: | 224.70096 วัน (0.6151977 ปีจูเลียน) | ||||||
คาบซินอดิก: | 583.92 วัน | ||||||
อัตราเร็วเฉลี่ย ในวงโคจร: | 25.020 กม./วินาที | ||||||
อัตราเร็วสูงสุด ในวงโคจร: | 35.259 กม./วินาที | ||||||
อัตราเร็วต่ำสุด ในวงโคจร: | 34.784 กม./วินาที | ||||||
ความเอียง: | 3.39471° (3.86° กับศูนย์สูตรดวงอาทิตย์) | ||||||
ลองจิจูด ของจุดโหนดขึ้น: | 76.68069° | ||||||
มุมของจุด ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด: | 54.85229° | ||||||
ดาวบริวารของ: | ดวงอาทิตย์ | ||||||
จำนวนดาวบริวาร: | ไม่มี | ||||||
ลักษณะทางกายภาพ | |||||||
เส้นผ่านศูนย์กลาง ตามแนวศูนย์สูตร: | 12,103.7 กม. (0.949×โลก) | ||||||
พื้นที่ผิว: | 4.60×108 กม.² (0.147×โลก) | ||||||
ปริมาตร: | 9.28×1011 กม.³ (0.857×โลก) | ||||||
มวล: | 4.8685×1024 กก. (0.815×โลก) | ||||||
ความหนาแน่นเฉลี่ย: | 5.204 กรัม/ซม.³ | ||||||
ความโน้มถ่วง ที่ศูนย์สูตร: | 8.87 เมตร/วินาที² (0.904 จี) | ||||||
ความเร็วหลุดพ้น: | 10.36 กม./วินาที | ||||||
คาบการหมุน รอบตัวเอง: | −243.0185 วัน | ||||||
ความเร็วการหมุน รอบตัวเอง: | 6.52 กม./ชม. | ||||||
ความเอียงของแกน: | 2.64° | ||||||
ไรต์แอสเซนชัน ของขั้วเหนือ: | 272.76° (18 ชม. 11 นาที 2 วินาที) | ||||||
เดคลิเนชัน ของขั้วเหนือ: | 67.16° | ||||||
อัตราส่วนสะท้อน: | 0.65 | ||||||
อุณหภูมิพื้นผิว: เคลวิน |
| ||||||
ลักษณะของบรรยากาศ | |||||||
ความดันบรรยากาศ ที่พื้นผิว: | 9,321.9 กิโลปาสกาล | ||||||
องค์ประกอบ: | ~96.5% คาร์บอนไดออกไซด์ ~3.5% ไนโตรเจน 0.015% ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ 0.007% ไอน้ำ 0.002% คาร์บอนมอนอกไซด์ 0.0017% อาร์กอน 0.0012% ฮีเลียม 0.0007% นีออน คาร์บอนิลซัลไฟด์ ปริมาณน้อยมาก ไฮโดรเจนคลอไรด์ ปริมาณน้อยมาก ไฮโดรเจนฟลูออไรด์ ปริมาณน้อยมาก |
ดาวศุกร์โคจรรอบดวงอาทิตย์ช้ามากและหมุนรอบตัวเองช้าเช่นกัน โดยโคจรรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบใช้เวลา 224.7 วันของโลก[4] และหมุนรอบตัวเองครบบริบูรณ์โดยใช้เวลา 243 วันของโลก แต่มีความยาววันสุริยคติ 117 วันของโลก ด้วยเหตุนี้ ดาวศุกร์จึงจัดเป็นดาวที่หมุนรอบตัวเองช้าที่สุดในระบบสุริยะ นอกจากนี้ ดวงอาทิตย์บนดาวศุกร์จะขึ้นทางทิศตรงกันข้ามกับโลก คือ ขึ้นทางทิศตะวันตกและตกทางทิศตะวันออก[5] ดาวศุกร์ไม่มีบริวารธรรมชาติเช่นเดียวกับดาวพุธ[6]
ดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์หิน และมักกล่าวว่าเป็นดาวน้องสาวของโลก ด้วยเหตุที่มีขนาดใกล้กัน มวลเกือบเท่ากัน อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์เหมือนกัน และมีส่วนประกอบเป็นหินเหมือนกัน อย่างไรก็ตามนั้น ดาวศุกร์มีลักษณะต่างจากโลกอย่างสุดขั้วในหลายด้าน อาทิ มีความหนาแน่นบรรยากาศสูงสุดในบรรดาดาวเคราะห์หินทั้งสี่ดวง ความดันบรรยากาศบนดาวศุกร์มีค่าประมาณ 92 เท่าของความดันบรรยากาศโลกที่ระดับน้ำทะเลปานกลาง ในบรรยากาศนั้นก็ประกอบไปด้วยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ 96% อุณหภูมิเฉลี่ยบนดาวศุกร์มีค่า 737 K (464 °C; 867 °F) ซึ่งสูงกว่าดาวพุธซึ่งอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ ดาวศุกร์มีเมฆซึ่งประกอบด้วยกรดซัลฟิวริก สะท้อนแสงได้ดีมาก จนไม่เห็นพื้นผิวในย่านแสงที่มองเห็น ในอดีตเชื่อว่า ดาวศุกร์เคยมีมหาสมุทร[7][8] แต่ต่อมามหาสมุทรระเหยเหือดแห้งไปอันเนื่องจาก ปรากฏการณ์เรือนกระจกแบบควบคุมไม่ได้ (runaway greenhouse effect)[9] น้ำที่ระเหยไปนั้นเชื่อว่าอาจถูกสลายด้วยแสง และไฮโดรเจนจากน้ำก็ถูกนำออกไปในบรรยากาศโดยลมสุริยะ[10]
การที่ดาวศุกร์มีความสว่างมากนี้เอง ทำให้มนุษย์มีความสนใจใคร่รู้และจดบันทึกการโคจร นับแต่สองพันปีก่อนคริสตกาล[11] ครั้นพัฒนาการสำรวจอวกาศได้รุดหน้า มนุษย์ได้สนใจใคร่รู้และสำรวจดาวศุกร์เป็นดาวแรกเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยยานมารีเนอร์ 2 แปดปีต่อมายานเวเนรา 7ก็ลงจอดยังผิวดาวศุกร์ ถึงกระนั้น เนื่องจากดาวศุกร์มีเมฆหนาทึบ การสำรวจพื้นผิวในรายละเอียดก็ไม่สามารถกระทำได้ดีนัก จนกระทั่งมียานมาเจลลัน สำรวจดาวศุกร์เมื่อ พ.ศ. 2534 ในปัจจุบันมีความพยายามศึกษาความเป็นไปได้ของชีวิตบนดาวศุกร์ ซึ่งยังเป็นหัวข้อวิจัยที่มีการถกเถียงกันอย่างมากอยู่
ชื่อของดาวศุกร์ในภาษาอังกฤษ มีที่มาจากเทพีแห่งความรักในเทพปกรณัมโรมัน ส่วนในภาษาไทย มาจากเทพพระศุกร์ หรือศุกระ ผู้เป็นครูของมารและเป็นเทพแห่งความงาม[12] สัญลักษณ์ของดาวศุกร์ในทางโหราศาสตร์และดาราศาสตร์สากล คือ ♀ อันเป็นสัญลักษณ์แทนเพศหญิง ส่วนในโหราศาสตร์ไทย ใช้ ๖ (เลขหกไทย)