หนานจิง
เมืองหลวงของมณฑลเจียงซู ประเทศจีน / From Wikipedia, the free encyclopedia
หนานจิง (จีน: 南京; พินอิน: Nánjīng, เสียงอ่านภาษาจีนกลาง: [nǎn.tɕíŋ] ( ฟังเสียง)) หรือรู้จักกันอีกชื่อว่า นานกิง (Nanking[5]) เป็นเมืองหลวงของมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน หนานจิงยังเป็นนครใหญ่อันดับสองในภาคตะวันออกของประเทศจีน รองจากช่างไห่ นครหนานจิงมีพื้นที่การปกครอง 6,600 ตารางกิโลเมตร (2,500 ตารางไมล์) และประชากรทั้งหมด 8,270,500 คนในปี ค.ศ. 2016[6] พื้นที่ด้านในของนครหนานจิงล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองโบราณคือ เขตนครหนานจิงเก่า (南京城) มีพื้นที่ 55 ตารางกิโลเมตร (21 ตารางไมล์) ในขณะที่เขตนครหนานจิงชั้นนอกรวมถึงนครและพื้นที่โดยรอบครอบคลุมกว่า 60,000 ตารางกิโลเมตร (23,000 ตารางไมล์) จัดเป็นเขตนครหนานจิงใหม่ มีประชากรกว่า 30 ล้านคน
หนานจิง 南京市 นานกิง | |
---|---|
ตามเข็มนาฬิกาจากด้านบน: 1. วิวทิวทัศน์นครหนานจิง ทะเลสาบซวนอู๋และภูเขาม่วง; 2. ประติมากรรมหินของสุสานราชวงศ์ใต้ "ปี่เซียะ"; 3. วิหารจีหมิง; 4. ประตูยี่เจียงส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองโบราณหนานจิง; 5. แม่น้ำฉินหฺวายและฟูจื่อเมี่ยว; 6. ศูนย์กีฬาโอลิมปิกหนานจิง; 7. สุสานหลวงหมิงเซี่ยว; 8. อนุสรณ์สถานดร.ซุน ยัตเซ็น | |
ที่ตั้งของนครหนานจิงในมณฑลเจียงซู | |
พิกัด: 32°03′41″N 118°45′49″E | |
ประเทศ | สาธารณรัฐประชาชนจีน |
มณฑล | เจียงซู |
ระดับอำเภอ | 11 |
ระดับตำบล | 129 |
ตั้งถิ่นฐาน | unknown (Yecheng, 495 BCE. Jinling City, 333 BCE) |
การปกครอง | |
• ประเภท | นครกึ่งมณฑล |
• เลขาธิการพรรค | จาง จิ้งหฺวา (张敬华) |
• นายกเทศมนตรี | หาน ลี่หมิง (韩立明) |
พื้นที่[1] | |
• ทั้งจังหวัด | 6,587 ตร.กม. (2,543 ตร.ไมล์) |
• เขตเมือง | 1,398.69 ตร.กม. (540.04 ตร.ไมล์) |
ความสูง | 20 เมตร (50 ฟุต) |
ประชากร (2019) | |
• ทั้งจังหวัด | 8,505,500 คน |
• ความหนาแน่น | 1,237 คน/ตร.กม. (3,183 คน/ตร.ไมล์) |
• เขตเมือง (ค.ศ. 2018)[2] | 6,525,000 คน |
• รวมปริมณฑล[3] | 11.7 ล้าน คน |
เขตเวลา | UTC+08:00 (เวลามาตรฐานจีน) |
รหัสไปรษณีย์ | 210000–211300 |
รหัสพื้นที่ | 25 |
รหัส ISO 3166 | CN-JS-01 |
GDP (Nominal) | ค.ศ. 2018 |
• ทั้งหมด | 191.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ |
• ต่อหัว | 23,104 ดอลลาร์สหรัฐ |
• ความเติบโต | 9.43% |
GDP (PPP) | ค.ศ. 2017 |
• ทั้งหมด | 334.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ |
• ต่อหัว | 40,084 ดอลลาร์สหรัฐ |
ดัชนีการพัฒนามนุษย์ | 0.859 (สูงมาก) |
ป้ายทะเบียนรถ | 苏A |
ต้นไม้ประจำเมือง | Cedrus deodara, Platanus × acerifolia[4] |
ดอกไม้ประจำเมือง | Méi (Prunus mume) |
เว็บไซต์ | www |
หนานจิง | |||||||||||||||||||||||||||||||
"หนานจิง" เขียนในตัวอักษรจีน | |||||||||||||||||||||||||||||||
ภาษาจีน | 南京 | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ไปรษณีย์ | Nanking | ||||||||||||||||||||||||||||||
ความหมายตามตัวอักษร | "ราชธานีทิศใต้" | ||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||
นครหนานจิงตั้งอยู่ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี มีสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจีน โดยเป็นนครที่เคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของราชวงศ์จีนสมัยอาณาจักร ตลอดจนถึงสมัยรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐชุดต่าง ๆ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ถึง ค.ศ. 1949[7] และเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมที่สำคัญ การศึกษา การวิจัย การเมือง เศรษฐกิจ เครือข่ายการขนส่ง และการท่องเที่ยว หนานจิงยังเป็นที่ตั้งของท่าเรือภายในประเทศที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นครนี้ยังเป็นหนึ่งในสิบห้านครย่อยในโครงสร้างการบริหารของเขตปกครองสาธารณรัฐประชาชนจีน[8]
หนานจิงซึ่งเป็นหนึ่งในนครที่สำคัญที่สุดของประเทศมานานกว่าพันปี ในอดีตนั้นหนานจิงจัดเป็นหนึ่งในสี่เมืองหลวงโบราณที่ยิ่งใหญ่ของจีน เป็นหนึ่งในนครที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพลิดเพลินไปกับความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองแม้จะมีสงครามและภัยพิบัติ[9][10][11][12] หนานจิงทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงของง่อก๊ก (229–280) หนึ่งในสามรัฐสำคัญในยุคสามก๊ก เคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์จิ้นและแต่ละราชวงศ์ในยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ (ได้แก่ หลิวซ่ง ฉีใต้ เหลียง และเฉิน) ซึ่งปกครองจีนตอนใต้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 317–589; ในสมัยราชวงศ์ถังใต้ (937–75), หนึ่งในสิบอาณาจักร ตลอดจนในสมัยราชวงศ์หมิง เมื่อครั้งแรกที่ประเทศจีนทั้งหมดถูกปกครองจากนครหนานจิงเป็นศูนย์กลาง (1368–1421)[13] หนานจิง ที่แปลว่านครหลวงใต้ เคยเป็นเมืองหลวงของหลายราชวงศ์ จนได้รับสมญานามว่า เมืองหลวงสิบแผ่นดิน และยังเป็น 1 ใน 6 นครโบราณ อันได้แก่ ปักกิ่ง หนานจิง ซีอาน ลั่วหยาง หางโจว และไคเฟิง
จนสมัยการปฏิวัติซินไฮ่ล้มล้างจักรพรรดิจีน ราชวงศ์ชิงหรือแมนจู หนานจิงจึงเป็นเมืองหลวงของรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐจีน เป็นเมืองหลวงครั้งสุดท้ายระหว่างปี ค.ศ. 1927 ถึง ค.ศ. 1949 ภายใต้การบริหารของพรรคก๊กมินตั๋งมีรัฐบาลคือรัฐบาลชาตินิยมแห่งสาธารณรัฐจีน (จีนคณะชาติ) ซึ่งมีผู้นำขณะนั้น คือ จอมทัพเจียงไคเช็ค ในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สองที่เกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นครหนานจิงได้รับความโหดร้ายอย่างรุนแรงในความขัดแย้งของสงครามและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกคือ การสังหารหมู่นานกิง
หลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง หนานจิงยังคงเป็นเมืองหลวงของรัฐบาลคณะชาติต่อไป ก่อนที่รัฐบาลสาธารณรัฐจีนจะลี้ภัยหนีไปเกาะไต้หวันในช่วงสงครามกลางเมืองจีน[14] เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนชนะสงครามกลางเมืองได้สถาปนาเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี ค.ศ. 1949 รัฐบาลใหม่จึงได้ย้ายเมืองหลวงกลับมายังปักกิ่งดังเดิม
บรรพบุรุษชาวหนานจิงจำนวนมากอพยพมาจากปักกิ่งตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง จึงมีส่วนทำให้ภาษาหนานจิงมีสำเนียงคล้ายภาษาจีนกลางที่ฟังเข้าใจได้ทั่วไป จนทำให้ปัจจุบันหนานจิงเป็นหนึ่งในนครที่มีนักศึกษาต่างชาติมากที่สุดในประเทศจีน