โอยันตา อูมาลา
ประธานาธิบดีเปรู / From Wikipedia, the free encyclopedia
โอยันตา โมเซส อูมาลา ตัสโซ (สเปน: Ollanta Moisés Humala Tasso, เกิด 27 มิถุนายน พ.ศ. 2505 –) เป็นนักการเมืองและอดีตทหารชาวเปรู เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเปรูระหว่างปี พ.ศ. 2554 จนถึง พ.ศ. 2559 เดิมเขามีแนวคิดทางการเมืองไปทางสังคมนิยมและชาตินิยมฝ่ายซ้าย ต่อมาเขามีแนวคิดแบบเสรีนิยมใหม่และมีจุดยืนแบบการเมืองสายกลางเมื่อเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี[1][2]
บทความนี้อาจขยายความได้โดยการแปลบทความที่ตรงกันในภาษาอังกฤษ คลิกที่ [ขยาย] เพื่อศึกษาแนวทางการแปล
|
โอยันตา อูมาลา | |
---|---|
อูมาลาใน พ.ศ. 2559 | |
ประธานาธิบดีเปรู คนที่ 58 | |
ดำรงตำแหน่ง 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 – 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 | |
นายกรัฐมนตรี | ดูรายชื่อ
|
รองประธานาธิบดี | มารีซัล เอสปิโนซา โอมาร์ เชฮาร์เด (2554-2555) |
ก่อนหน้า | อาลัน การ์ซีอา |
ถัดไป | เปรโต พาโบล คุซชินสกี |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 27 มิถุนายน พ.ศ. 2505 (61 ปี) ลิมา, เปรู |
เชื้อชาติ | เปรู |
พรรคการเมือง | พรรคชาตินิยมเปรู |
การเข้าร่วม พรรคการเมืองอื่น | เปรู วินส์ (2553–2554) พรรคสหภาพแห่งเปรู (2549) |
คู่สมรส | นาดีน เฮอร์เลนเดีย (สมรส 2542) |
บุตร | 3 คน |
ศิษย์เก่า | โรงเรียนทหารชอร์ลินลอส มหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่งเปรู (ปริญญาโท) |
ลายมือชื่อ | |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | เปรู |
สังกัด | กองทัพบกเปรู |
ประจำการ | 2524–2548 |
ยศ | พันโท |
ผ่านศึก | ความขัดแย้งภายในเปรู สงครามเซเนปา |
เขาเกิดในครอบครัวที่เป็นนักการเมืองและนักเคลื่อนไหว บิดาของเขาชื่อไอแซก อูมาลา เป็นนักกฎหมายและทนายความ อูมาลาเข้ารับรัฐการเป็นทหารประจำกองทัพเปรูเมื่อ พ.ศ. 2524 และได้รับยศพันโท ในช่วงที่เขาเป็นทหารนั้น เขามีบทบาทอย่างมากในเหตุการณ์ความขัดแย้งภายในเปรู และเคยร่วมรบในสงครามเซเนปาซึ่งเกิดจากความขัดแย้งระหว่างประเทศเอกวาดอร์กับประเทศเปรู ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2543 เขาพยายามกระทำรัฐประหารรัฐบาลของอัลเบร์โต ฟูฆิโมริ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ[3] ต่อมาเมื่อฟูฆิโมริหมดวาระ เขาจึงได้รับการนิรโทษกรรมและได้เข้ามารับรัฐการทหารอีกครั้ง
ใน พ.ศ. 2548 เขาเข้าสู้เส้นทางการเมืองและได้ก่อตั้งพรรคชาตินิยมเปรูและลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปของเปรู พ.ศ. 2549 แต่ได้แพ้อาลัน การ์ซีอา นโยบายและการหาเสียงของเขาได้เป็นที่สนใจของนานาชาติและสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก และถือเป็นความสำเร็จของการเมืองฝ่ายซ้ายในละตินอเมริกา[4] ซึ่งเขาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งใน พ.ศ. 2554 และได้รับชัยชนะการเลือกตั้ง โดยสามารถเอาชนะเกย์โก ฟูฆิโมริ และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจนถึงปี พ.ศ. 2559
ชัยชนะในการเลือกตั้งของเขาถูกมองว่ามีการแทรกแซงจากนายทุน และมีความกังวลว่าเขาจะดำเนินนโยบายแบบอูโก ชาเบซซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดีของประเทศเวเนซุเอลาและอาจดำเนินนโยบายแบบซ้ายจัดได้ ดังนั้นอูมาลาจึงเปลี่ยนจุดยืนทางการเมืองเป็นสายกลางเมื่อดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี[5] อย่างไรก็ดี ระหว่างเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีนั้นมีเรื่องอื้อฉาวและพบว่ามีการทุจริตทางการเมืองโดยเขาและภรรยาคือนาดีน เฮอร์เลเดีย[6][7] ทั้งนี้เขายังถูกวิจารณ์จากนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากนโยบายการสร้างเหมืองแร่อีกด้วย โดยวิจารณ์ว่าเขาไม่ได้ทำตามสัญญาที่หาเสียงไว้ว่าจะดำเนินนโยบายควบคุมการทำเหมืองแร่ในเปรูรวมถึงบริษัทผู้สัมปทาน[8][9]
หลังพ้นตำแหน่งประธานาธิบดี ใน พ.ศ. 2560 เขาถูกทางการเปรูจับกุมข้อหาทุจริตทางการเมือง[10] ต่อมาอูมาลากลับมาลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปของเปรู พ.ศ. 2564 แต่เขาได้รับคะแนนเสียงเพียงร้อยละ 1.5 และไม่ได้รับเลือกตั้ง[11][12]