เยกาเจรีนามหาราชินี
จักรพรรดินีแห่งรัสเซีย ครองราชย์ตั้งแต่ ค.ศ. 1762 ถึง 1796 / From Wikipedia, the free encyclopedia
จักรพรรดินีนาถเยกาเจรีนาที่ 2[lower-alpha 1] หรือ ซึ่งทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า เยกาเจรีนามหาราชินี[lower-alpha 2] หรือพระนามเดิมคือ โซฟี เอากุสเทอ ฟรีเดอรีเคอ แห่งอัลฮัลท์-แซบสท์ (เยอรมัน: Sophie Auguste Friederike von Anhalt- Zerbst; 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1729 – 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1796) ทรงเป็นเจ้าหญิงชาวเยอรมันโดยกำเนิด และต่อมาได้อภิเษกเข้าสู่ราชวงศ์รัสเซีย ต่อมาได้ขึ้นครองราชสมบัติรัสเซียต่อจากพระสวามี พระองค์ทรงเป็นจักรพรรดินีนาถมีชื่อเสียงและครองราชย์ยาวนานที่สุดของรัสเซีย ทรงขึ้นครองราชย์หลังจากการรัฐประหารและการปลงพระชนม์จักรพรรดิปีเตอร์ที่ 3 พระราชสวามีของพระองค์เอง (ไม่นานหลังจากการสิ้นสุดของสงครามเจ็ดปี) จนกระทั่งเสด็จสวรรคต การปกครองของพระองค์เป็นการอธิบายถึงการเป็น พระประมุขผู้ทรงภูมิธรรม (enlightened despot) ทั้งยังทรงฟื้นฟูจักรวรรดิรัสเซียให้แข็งแกร่งและมีอาณาเขตกว้างกว่าเดิมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนรัสเซียกลายมาเป็นชาติมหาอำนาจที่สำคัญมากที่สุดชาติหนึ่งในยุโรปในยุคนั้น
เยกาเจรีนามหาราชินี | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระบรมสาทิสลักษณ์ โดย อาแล็กซ็องดร์ โรสบิน ป. ประมาณ 1780 | |||||
จักรพรรดินีนาถแห่งรัสเซียทั้งปวง | |||||
ครองราชย์ | 9 กรกฎาคม 1762 – 17 พฤศจิกายน 1796 | ||||
ราชาภิเษก | 12 กันยายน 1762 | ||||
ก่อนหน้า | จักรพรรดิปิออตร์ที่ 3 | ||||
ถัดไป | จักรพรรดิปัฟเวลที่ 1 | ||||
จักรพรรดินีแห่งรัสเซีย | |||||
ดำรงพระยศ | 5 มกราคม – 9 กรกฎาคม 1762 | ||||
พระราชสมภพ | เจ้าหญิงโซฟีแห่งอันฮัสท์-แซบสท์ 2 พฤษภาคม [ตามปฎิทินเก่า: 27 เมษายน] ค.ศ. 1729 ชเตททิน, พอเมอเรเนีย, ปรัสเซีย, จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (ปัจจุบันชแชชิน, ประเทศโปแลนด์) | ||||
สวรรคต | 17 พฤศจิกายน [ตามปฎิทินเก่า: 6 พฤศจิกายน] ค.ศ. 1796 (67 พรรษา) พระราชวังฤดูหนาว, เซนต์ปีเตอส์เบิร์ก, จักรวรรดิรัสเซีย | ||||
ฝังพระศพ | มหาวิหารปีเตอร์และพอล, เซนต์ปีเตอส์เบิร์ก | ||||
คู่อภิเษก |
| ||||
พระราชบุตร |
| ||||
| |||||
ราชวงศ์ |
| ||||
พระราชบิดา | คริสทีเออ เอากุสท์ เจ้าชายแห่งอันฮัลท์-แซบสท์ | ||||
พระราชมารดา | โยฮันนา เอลีซาเบ็ทแห่งฮ็อลชไตน์-ก็อททร็อพ | ||||
ศาสนา |
| ||||
ลายพระอภิไธย |
ในการเข้าถึงขุมอำนาจและปกครองจักรวรรดิของพระองค์ พระนางเยกาเจรีนา มักจะทรงพึ่งพาอำนาจจากเหล่าขุนนางที่ทรงโปรดปราน และผู้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเช่นกริกอรี ออโลฟ และกริกอรี โปเตมคิน หรือเหล่านายพลผู้มีอำนาจบารมีสูงเช่น ปิออตร์ รูเมียนเซฟ และอะเลคซันดร์ ซูโวรอฟ หรือแม้แต่พลเรือเอกเช่น ฟิโอดอร์ อูชาคอฟ พระนางปกครองรัสเซียในช่วงเวลาที่จักรวรรดิได้ทำการแผ่ขยายอาณาเขตของตนโดยทั้งการศึกสงครามและการทูต ทางทิศใต้, อาณาจักรข่านแห่งไครเมียร์ถูกบดขยี้และตามมาด้วยชัยชนะเหนือจักรวรรดิออตโตมันในสงครามรัสเซีย-ตุรกี ต่อมารัสเซียได้ทำการเข้ายึดครองดินแดนอันว่างเปล่าแห่งโนโวรอสซิยาตลอดจนชายฝั่งทะเลดำและทะเลอะซอฟ ทางทิศตะวันตก, เครือจักรภพโปแลนด์-ลิทัวเนียซึ่งถูกปกครองโดยอดีตคนรักของพระนาง พระเจ้าสตาญิสวัฟที่ 2 เอากุสตุส ปอญาตอฟสกี ในที่สุดก็ถูกแบ่งแยกออกจากกันโดยรัสเซียได้ส่วนแบ่งของดินแดนมากที่สุด ทางทิศตะวันออก, รัสเซียเริ่มเข้ายึดครองอะแลสกาในรูปแบบของอาณานิคมจนนำไปสู่การก่อตั้งอเมริกาของรัสเซีย
พระองค์ทรงทำการปฏิรูประบบราชการภายในของเขตกูเบอร์นิยา รวมไปถึงมีรับสั่งให้สถาปนาเมืองและหมู่บ้านขึ้นมากมาย และในฐานะที่ทรงเป็นผู้นิยมชมชอบพระราชกรณียกิจของจักรพรรดิปีเตอร์มหาราช พระองค์จึงได้ดำเนินพระราโชบายตามแนวทางของจักรพรรดิปีเตอร์มหาราชโดยการปฏิรูปรัสเซียให้เข้าสู่ความทันสมัยตามแบบฉบับชาติยุโรปตะวันตก อย่างไรก็ตามการเข้ารับราชการในกองทัพและระบบเศรษฐกิจของประเทศยังคงต้องพึ่งพาระบบทาสอยู่ต่อไป ในขณะที่ความต้องการใช้แรงงานของประเทศและของเหล่าผู้ครอบครองที่ดินเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การใช้แรงงานทาสดำเนินไปถึงขั้นกดขี่แรงงานทาส และระบบทาสดังกล่าวก็เป็นหนึ่งในเหตุผลประการสำคัญของการก่อกบฏหลายต่อหลายครั้ง ดังเช่นกบฏปูกาเชฟที่มีกองทหารม้าและชาวนาจำนวนมากมายเข้าร่วมการกบฏ
ตลอดระยะเวลาในการครองราชย์หรือ สมัยเยกาเจรีนา ถูกพิจารณาว่าเป็นยุคทองของจักรวรรดิรัสเซียและของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในรัสเซีย แถลงการณ์ว่าด้วยเสรีภาพของขุนนางซึ่งเป็นที่โต้แย้งกันในรัชสมัยของจักรพรรดิปีเตอร์ที่ 3 ก็ได้รับการยินยอมในช่วงรัชสมัยของพระนางเยกาเจรีนา โดยแถลงการณ์ฉบับนี้ได้ให้อิสรภาพแก่บรรดาขุนนางไม่ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของกองทัพหรือการรับราชการสนองคุณประเทศ ให้อิสรภาพในการครอบครองที่อยู่อาศัย เช่น แมนชันรูปแบบคลาสสิก โดยรูปแบบสถาปัตยกรรมดังกล่าวเป็นที่นิยมและได้รับการสนับสนุนโดยพระนางเจ้าเยกาเจรีนาอย่างมาก ก่อให้เกิดตึกรามบ้านช่องอันหรูหราขึ้นจำนวนมาก ซึ่งตลอดช่วงการครองราชย์ของพระองค์ได้ทรงทำให้โฉมหน้าของประเทศเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จึงกล่าวได้ว่ารัชสมัยของพระนางคือยุคเรืองปัญญาของรัสเซียก็ว่าได้