อีเลฟเทริออส เวนิเซลอส
From Wikipedia, the free encyclopedia
อีเลฟเทริออส เวนิเซลอส (Eleftherios Venizelos; ชื่อเต็ม : อีเลฟเทรีออส คีรีอาคู เวนิเซลอส ;Elefthérios Kyriákou Venizélos, กรีก: Ἐλευθέριος Κυριάκου Βενιζέλος ; 23 สิงหาคม ค.ศ. 1864 - 18 มีนาคม ค.ศ. 1936) เป็นผู้นำชาวกรีกที่ประสบความสำเร็จในขบวนการปลดปล่อยชาติกรีกและเป็นรัฐบุรุษที่มีเสน่ห์ในช่วงยุคต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นที่จดจำจากการส่งเสริมนโยบายแนวเสรีนิยมประชาธิปไตย[1][2][3] เขาได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งกรีซหลายสมัย โดยดำรงตำแหน่งระหว่างค.ศ. 1910 ถึงค.ศ. 1920 และตั้งแต่ค.ศ. 1928 ถึงค.ศ. 1932 เวนิเซลอสเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งในกิจการทั้งภายในและภายนอกของกรีซ ซึ่งทำให้เขาได้รับการขนานนามว่าเป็น "ผู้สร้างกรีซสมัยใหม่"[4] และยังคงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในฐานะ "เอ็ทนาร์ช" (Ethnarch)
อีเลฟเทริออส เวนิเซลอส Ελευθέριος Βενιζέλος | |
---|---|
นายกรัฐมนตรีกรีซ | |
ดำรงตำแหน่ง 19 ตุลาคม ค.ศ. 1910 – 10 มีนาคม ค.ศ. 1915 (4 ปี 142 วัน) | |
กษัตริย์ | พระเจ้าจอร์จที่ 1 พระเจ้าคอนสแตนตินที่ 1 |
ก่อนหน้า | สเตฟานอส ดรากูมิส |
ถัดไป | ดีมิทริออส กูนาริส |
ดำรงตำแหน่ง 23 สิงหาคม ค.ศ. 1915 – 7 ตุลาคม ค.ศ. 1915 (0 ปี 45 วัน) | |
กษัตริย์ | พระเจ้าคอนสแตนตินที่ 1 |
ก่อนหน้า | ดีมิทริออส กูนาริส |
ถัดไป | อเล็กซานดรอส ไซมิส |
ดำรงตำแหน่ง 27 มิถุนายน ค.ศ. 1917 – 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1920 (3 ปี 143 วัน) | |
กษัตริย์ | พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ |
ก่อนหน้า | อเล็กซานดรอส ไซมิส |
ถัดไป | ดีมิทริออส รอลลิส |
ดำรงตำแหน่ง 11 มกราคม ค.ศ. 1924 – 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1924 (0 ปี 26 วัน) | |
กษัตริย์ | พระเจ้าจอร์จที่ 2 |
ก่อนหน้า | สตีลีอานอส โกนาตัส |
ถัดไป | ยอร์โยส คาฟานตาริส |
ดำรงตำแหน่ง 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1928 – 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1932 (3 ปี 327 วัน) | |
ประธานาธิบดี | ปาฟลอส คูนทูรีออทิส อเล็กซานดรอส ไซมิส |
ก่อนหน้า | อเล็กซานดรอส ไซมิส |
ถัดไป | อเล็กซานดรอส ปาปานาสตาซีอู |
ดำรงตำแหน่ง 5 มิถุนายน ค.ศ. 1932 – 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1932 (0 ปี 152 วัน) | |
ประธานาธิบดี | อเล็กซานดรอส ไซมิส |
ก่อนหน้า | อเล็กซานดรอส ปาปานาสตาซีอู |
ถัดไป | ปานากิส ซาลดาริส |
ดำรงตำแหน่ง 16 มกราคม ค.ศ. 1933 – 6 มีนาคม ค.ศ. 1933 (0 ปี 49 วัน) | |
ประธานาธิบดี | อเล็กซานดรอส ไซมิส |
ก่อนหน้า | ปานากิส ซาลดาริส |
ถัดไป | อเล็กซานดรอส โอโทนาอิออส |
นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐครีต | |
ดำรงตำแหน่ง 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1910 – 6 ตุลาคม ค.ศ. 1910 (0 ปี 157 วัน) | |
ก่อนหน้า | อเล็กซานดรอส ไซมิส (ในฐานะข้าหลวงใหญ่) |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งรัฐครีต | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 1908 – ค.ศ. 1910 | |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแห่งรัฐครีต | |
ดำรงตำแหน่ง 17 เมษายน ค.ศ. 1899 – 18 มีนาคม ค.ศ. 1901 (1 ปี 335 วัน) | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 23 สิงหาคม ค.ศ. 1864 มอร์นีส์ ครีต จักรวรรดิออตโตมัน |
เสียชีวิต | 18 มีนาคม ค.ศ. 1936 (อายุ 71 ปี) ปารีส ฝรั่งเศส |
ศาสนา | ออร์ทอดอกซ์กรีก |
พรรคการเมือง | พรรคเสรีนิยม |
คู่สมรส | มาเรีย คาเตลูซู (ค.ศ. 1891 - 1894) เอเลนา สกีลิตซี (ค.ศ. 1921 - 1936) |
บุตร | คีรีอาคอส เวนิเซลอส โซโฟคลิส เวนิเซลอส |
ญาติ | คอนสแตนติน มิตโซตากิส (หลาน) |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยเนชันนอลแอนด์คาโปดิสเทรียนแห่งเอเธนส์ (National and Kapodistrian University of Athens) |
วิชาชีพ | นักการเมือง นักปฏิวัติ สมาชิกสภานิติบัญญัติ ทนายความ นักกฎหมาย สื่อมวลชน นักแปล |
ลายมือชื่อ | |
การเข้ามามีบทบาทในเวทีระหว่างประเทศครั้งแรกของเขาคือการที่เขามีบทบาทสำคัญในการดำเนินการความเป็นอิสระของรัฐครีตและหลังจากนั้นได้รวมเกาะครีตเข้ากับกรีซ ในเวลาโดยเร็ว เขาถูกเชิญไปยังกรีซเพื่อแก้ไขปัญหาการชะงักงันทางการเมืองและกลายเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ ไม่เพียงแต่เขาเริ่มต้นการปฏิรูปรัฐธรรมนูญและเศรษฐกิจที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการทำให้สังคมกรีกมีความเป็นสมัยใหม่ และยังได้จัดตั้งทั้งกองทัพบกและกองทัพเรือขึ้นมาใหม่เพื่อเตรียมการกับความขัดแย้งในอนาคต ก่อนสงครามบอลข่านในปีค.ศ. 1912 - 1913 บทบาทที่เป็นตัวเร่งของเวนิเซลอสได้ชาวยให้กรีซสามารถเข้าร่วมสันนิบาตบอลข่าน ซึ่งเป็นกลุ่มสัมพันธมิตรของรัฐบอลข่านเพื่อต่อต้านจักรวรรดิออตโตมัน โดยผ่านความเฉียบแหลมทางการทูต พื้นที่และประชากรของกรีซได้เพิ่มทวีมากขึ้นจากการปลดปล่อยมาซิโดเนีย, อีพิรัสและส่วนที่เหลือของหมู่เกาะอีเจียน
ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (ค.ศ. 1914 - 1918) เขาได้นำกรีซไปเข้ากับฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อขยายพรมแดนกรีก อย่างไรก็ตาม ด้วยนโยบายต่างประเทศที่สนับสนุนฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทำให้เขามีความขัดแย้งโดยตรงกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งก่อให้เกิดความแตกแยกแห่งชาติ ความแตกแยกนี้ได้ก่อให้เกิดการแบ่งขั้วในหมู่ประชาชนระหว่างฝ่ายกษัตริย์นิยมและกลุ่มนิยมเวนิเซลอส (Venizelists; เวนิเซลิสต์) และเกิดการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจระหว่างทั้งสองกลุ่มที่ได้บั่นทอนทำลายการเมืองและชีวิตทางสังคมของกรีซมาเป็นเวลานานหลายทศวรรษ[5] ต่อมาฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับชัยชนะ เวนิเซลอสได้รับดินแดนใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอานาโตเลีย ซึ่งทำให้แนวคิดกรีกเมกาลีใกล้เคียงความเป็นจริงยิ่งขึ้น แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จ แต่เวนิเซลอสได้พ่ายแพ้การเลือกตั้งในปีค.ศ. 1920 ซึ่งในที่สุดทำให้กรีซพ่ายแพ้ในสงครามกรีก-ตุรกี (1919 - 1922) เวนิเซลอสซึ่งได้เนรเทศตัวเองออกไป ได้เป็นตัวแทนของกรีซในการเจรจาที่นำไปสู่การลงนามในสนธิสัญญาโลซานและข้อตกลงการแลกเปลี่ยนร่วมกันในระดับประชากรระหว่างกรีซและตุรกี
ในช่วงเวลาที่เวนิเซลอสยังดำรงตำแหน่งอยู่ ได้ประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ในระดับปกติกับประเทศเพื่อนบ้านของกรีซและได้ขยายการปฏิรูปรัฐธรรมนูญและเศรษฐกิจ ในปีค.ศ. 1935 เวนิเซลอสได้เปลี่ยนแนวคิดหลังจากการเกษียณอายุราชการโดยการสนับสนุนการรัฐประหารโดยกองทัพ และเขาได้จัดตั้งสาธารณรัฐเฮเลนิกที่สองที่มีความอ่อนแอและล้มเหลวอย่างรุนแรง