อาร์เอ็มเอส ควีนแมรี
From Wikipedia, the free encyclopedia
อาร์เอ็มเอส ควีนแมรี[3] (อังกฤษ: RMS Queen Mary) หรือชื่อเต็มคือ เรือไปรษณีย์หลวงควีนแมรี เป็นเรือเดินสมุทรสัญชาติอังกฤษที่ปลดประจำการแล้ว เคยแล่นในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือเป็นหลักตั้งแต่ปี ค.ศ. 1936–1967 สร้างโดยอู่ต่อเรือจอห์นบราวน์แอนด์คอมพานี ในเมืองไคลด์แบงก์ ประเทศสกอตแลนด์ และให้บริการโดยสายการเดินเรือคูนาร์ดไลน์ เรือลำนี้ถูกสร้างขึ้นพร้อมกับอาร์เอ็มเอส ควีนเอลิซาเบธ[4] เพื่อให้บริการเรือด่วนรายสัปดาห์สองลำระหว่างเซาแทมป์ตัน แชร์บูร์ และนครนิวยอร์ก เรือทั้งสองลำเป็นการตอบสนองของอังกฤษต่อเรือเดินสมุทรความเร็วสูงที่สร้างโดยบริษัทเยอรมัน อิตาลี และฝรั่งเศสในช่วงปลายทศวรรษที่ 1920 และต้นทศวรรษที่ 1930
อาร์เอ็มเอส ควีนแมรี ในลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย | |
ประวัติ | |
---|---|
ชื่อ | |
ตั้งชื่อตาม | สมเด็จพระราชินีแมรี ในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร |
เจ้าของ |
|
ท่าเรือจดทะเบียน | ลิเวอร์พูล |
เส้นทางเดินเรือ | เซาแทมป์ตัน นครนิวยอร์ก ผ่านแชร์บูร์ (เส้นทางเดินเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกปกติทั้งขาไปและกลับ) |
Ordered | 3 เมษายน 1929 |
อู่เรือ |
|
Yard number | 534 |
ปล่อยเรือ | 1 ธันวาคม 1930 |
เดินเรือแรก | 26 กันยายน 1934 |
สนับสนุนโดย | สมเด็จพระราชินีแมรี |
Christened | 26 กันยายน 1934 |
Maiden voyage | 27 พฤษภาคม 1936 |
บริการ | 1936–1967 |
หยุดให้บริการ | 9 ธันวาคม 1967 |
รหัสระบุ |
|
ความเป็นไป | โรงแรมและพิพิธภัณฑ์เรือ |
สถานะ | เทียบท่าถาวรในลองบีช |
ลักษณะเฉพาะ | |
ประเภท: | เรือเดินสมุทร |
ขนาด (ตัน): |
|
ขนาด (ระวางขับน้ำ): | 77,400 ลองตัน (78,642 เมตริกตัน) |
ความยาว: |
|
ความกว้าง: | 118 ฟุต (36.0 เมตร) |
ความสูง: | 181 ฟุต (55.2 เมตร) |
กินน้ำลึก: | 38 ฟุต 9 นิ้ว (11.8 เมตร) |
ดาดฟ้า: | 12 |
ระบบพลังงาน: | 24 × หม้อไอน้ำแบบท่อน้ำ |
ระบบขับเคลื่อน: |
|
ความเร็ว: |
|
ความจุ: | 2,140 คน: ชั้นหนึ่ง 776 คน, ชั้นสอง 785 คน, ชั้นสาม 579 คน |
ลูกเรือ: | 1,100 คน |
อาร์เอ็มเอส ควีนแมรี | |
พิกัด | 33°45′11″N 118°11′23″W |
เลขอ้างอิง NRHP | 92001714[2] |
ขึ้นทะเบียน NRHP | 15 เมษายน 1993 |
อาร์เอ็มเอส ควีนแมรี ทำการเดินเรือครั้งแรกในวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1936 และได้รับรางวัลบลูริบบันด์ (Blue Riband) ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน[5] ต่อมาก็สูญเสียรางวัลนี้ไปให้กับเอสเอส นอร์มังดี (SS Normandie) ในปี ค.ศ. 1937 แต่ควีนแมรีก็สามารถคว้ารางวัลนี้คืนได้อีกครั้งในปี ค.ศ. 1938 และครองแชมป์เรือเดินสมุทรที่เร็วที่สุดในโลกจนถึงปี ค.ศ. 1952 ซึ่งสถิตินี้ถูกทำลายโดยเอสเอส ยูไนเต็ดสเตต (SS United States) ลำใหม่ เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองปะทุขึ้น ควีนแมรีได้ถูกดัดแปลงเป็นเรือขนส่งทหาร และทำหน้าที่ขนส่งทหารฝ่ายสัมพันธมิตรระหว่างสงคราม ในเที่ยวเดินเรือครั้งหนึ่งเมื่อปี ค.ศ. 1943 ควีนแมรีสามารถบรรทุกคนได้มากกว่า 16,600 คน ซึ่งยังคงเป็นสถิติสูงสุดที่เรือเคยบรรทุกคนมาจนถึงปัจจุบัน
หลังจบสงคราม ควีนแมรีได้รับการปรับปรุงให้กลับมาบริการบรรทุกผู้โดยสารอีกครั้ง ร่วมกับควีนเอลิซาเบธ ทั้งสองลำเริ่มทำหน้าที่ตามแผนการเดิมที่วางไว้ตั้งแต่แรก คือ การเป็นเรือเดินสมุทรข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก บรรทุกผู้โดยสารแบบสองลำสลับกันเป็นรายสัปดาห์ เรือทั้งสองครองตลาดการขนส่งผู้โดยสารข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกจนกระทั่งเครื่องบินเจ็ตเริ่มเฟื่องฟูในปลายทศวรรษที่ 1950 เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางทศวรรษที่ 1960 ควีนแมรีก็เริ่มเก่าลง และประสบภาวะขาดทุน
หลังจากที่คูนาร์ดไลน์ประสบปัญหาผลกำไรลดลงมาหลายปี ในที่สุดควีนแมรีก็ถูกปลดประจำการอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1967 โดยออกเดินทางจากเซาแทมป์ตันเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1967 และมุ่งหน้าสู่ท่าเรือลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสถานที่ที่เรือจะถูกทอดสมออย่างถาวร เมืองลองบีชได้ทำการซื้อเรือลำนี้เพื่อมาใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยมีทั้งร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ และโรงแรม โดยทางเมืองได้ว่าจ้างบริษัทภายนอกหลายแห่งให้มาบริหารจัดการเรือตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเพิ่งกลับมาควบคุมการดำเนินงานอีกครั้งในปี ค.ศ. 2021