อาร์เธอร์ เวลสลีย์ ดยุกที่ 1 แห่งเวลลิงตัน
From Wikipedia, the free encyclopedia
จอมพล อาร์เธอร์ เวลสลีย์ ดยุกที่ 1 แห่งเวลลิงตัน (อังกฤษ: Arthur Wellesley, 1st Duke of Wellington) เป็นทหารและรัฐบุรุษ และเป็นหนึ่งในผู้กำหนดนโยบายทางการทหารและการเมืองของอังกฤษในศตวรรษที่ 19 เขาสามารถมีชัยเหนือนโปเลียนแห่งฝรั่งเศสได้ในยุทธการที่วอเตอร์ลูในปี 1815 ซึ่งทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกองทัพอังกฤษ และมีสมญานามว่า ดยุกเหล็ก ทั้งนี้ ในปี 2002 ชื่อของเขาอยู่ในอันดับ 15 ของชาวอังกฤษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดหนึ่งร้อยลำดับ
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ดยุกแห่งเวลลิงตัน | |
---|---|
ดยุกแห่งเวลลิงตันในปี 1814 ภาพโดย ทอมัส ลอว์เรนซ์ | |
นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร | |
ดำรงตำแหน่ง 14 พฤศจิกายน 1834 – 10 ธันวาคม 1834 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าวิลเลียมที่ 4 |
ก่อนหน้า | ไวเคานต์เมลเบิร์น |
ถัดไป | รอเบิร์ต พีล |
ดำรงตำแหน่ง 22 มกราคม 1828 – 16 พฤศจิกายน 1830 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าจอร์จที่ 4 พระเจ้าวิลเลียมที่ 4 |
ก่อนหน้า | ไวเคานต์ก๊อดริช |
ถัดไป | เอิร์ลเกรย์ |
ผู้นำสภาขุนนาง | |
ดำรงตำแหน่ง 3 กันยายน 1841 – 27 มิถุนายน 1846 | |
นายกรัฐมนตรี | รอเบิร์ต พีล |
ก่อนหน้า | ไวเคานต์เมลเบิร์น |
ถัดไป | มาร์ควิสแห่งแลนส์ดาวน์ |
ดำรงตำแหน่ง 14 พฤศจิกายน 1834 – 18 เมษายน 1835 | |
นายกรัฐมนตรี | เซอร์ รอเบิร์ต พีล |
ก่อนหน้า | ไวเคานต์เมลเบิร์น |
ถัดไป | ไวเคานต์เมลเบิร์น |
ดำรงตำแหน่ง 22 มกราคม 1828 – 22 พฤศจิกายน 1830 | |
ก่อนหน้า | ไวเคานต์โกดริช |
ถัดไป | เอิร์ลเกรย์ |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ | |
ดำรงตำแหน่ง 14 พฤศจิกายน 1834 – 18 เมษายน 1835 | |
นายกรัฐมนตรี | เซอร์ รอเบิร์ต พีล |
ก่อนหน้า | ไวเคานต์พาลเมอร์สตัน |
ถัดไป | ไวเคานต์พาลเมอร์สตัน |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย | |
ดำรงตำแหน่ง 17 พฤศจิกายน 1834 – 15 ธันวาคม 1834 | |
ก่อนหน้า | ไวเคานน์ดันแคนนอน |
ถัดไป | เฮนรี กูลบูร์น |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสงครามและอาณานิคม | |
ดำรงตำแหน่ง 17 พฤศจิกายน 1834 – 9 ธันวาคม 1834 | |
ก่อนหน้า | ทอมัส สปริง ไรซ์ |
ถัดไป | เอิร์ลแห่งแอเบอร์ดีน |
อธิการบดีมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด | |
ดำรงตำแหน่ง 1834–1852 | |
ก่อนหน้า | บารอนเกรนวิลล์ |
ถัดไป | เอิร์ลแห่งดาร์บีย์ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | อาร์เธอร์ เวลสลีย์ 1 พฤษภาคม 1769 ดับลิน, เเคว้นไอร์เเลนด์ ประเทศสหราชอาณาจักร (ปัจจุบันคือประเทศไอร์แลนด์)[1] |
เสียชีวิต | 14 กันยายน ค.ศ. 1852(1852-09-14) (83 ปี) ปราสาทวัลเมอร์, เคนต์, อังกฤษ, สหราชอาณาจักร |
ที่ไว้ศพ | อาสนวิหารนักบุญเปาโล, ลอนดอน |
ศาสนา | คริสตจักรแห่งไอร์แลนด์ |
คู่สมรส | แคเธอริน พาเค็นแฮม |
บุตร | อาเธอร์ ชาลล์ |
ลายมือชื่อ | |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | สหราชอาณาจักร |
สังกัด | กองทัพบริเตน |
ประจำการ | 1787–1852 |
ยศ | จอมพล |
บังคับบัญชา | ผู้บัญชาการกองทัพบริเตน |
ผ่านศึก | สงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่หนึ่ง สงครามอังกฤษ-ไมซอร์ครั้งที่สี่ สงครามอังกฤษ-มราฐาครั้งที่สอง สงครามนโปเลียน |
เกิดที่ดับลินในไอร์แลนด์ เริ่มจากการเป็นร้อยตรีในกองทัพอังกฤษในปี 1787 โดยประจำการในไอร์แลนด์ในฐานะทหารคนสนิทผู้แทนพระองค์ประจำไอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาสามัญชน (สภาล่าง) ของไอร์แลนด์ และดำรงยศเป็นพันเอกในปี 1796 โดยเข้าร่วมราชการสงครามในเนเธอร์แลนด์ในช่วงสงครามมหาสัมพันธมิตรครั้งที่หนึ่ง และในอินเดียในช่วงสงครามอังกฤษ-ไมซอร์ครั้งที่สี่ และจึงได้รับแต่งตั้งเป็นข้าหลวงประจำศรีรังคปัฏนาและไมซอร์ในปี 1799 และต่อมาจึงได้รับแต่งตั้งเป็นพลตรีภายหลังชัยชนะเหนือจักรวรรดิมราฐาในปี 1803
เวลสลีย์เป็นผู้บัญชาการศึกคาบสมุทรในสงครามนโปเลียน และได้รับการเลื่อนขึ้นขึ้นเป็นจอมพลภายหลังสามารถนำกองทัพพันธมิตรมีชัยเหนือฝรั่งเศสได้ในยุทธการที่วิกตอเรียในปี 1813 ซึ่งตามมาด้วยการเนรเทศนโปเลียนในปีต่อมา เวลสลีย์เข้ารับตำแหน่งเป็นราชทูตประจำฝรั่งเศส และได้รับบรรดาศักดิ์เป็นดยุก ต่อมาระหว่างสมัยร้อยวันในปี 1815 กองทัพพันธมิตรของเขาร่วมกับกองทัพปรัสเซียที่นำโดยพลโทบลือเชอร์ มีชัยเหนือนโปเลียนในยุทธการที่วอเตอร์ลู ชีวิตทหารของเขานั้นเป็นที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง จากรายงานราชการสงคราม ตลอดชีวิตทหารของเขาได้ผ่านศึกสงครามมากว่า 60 ครั้ง เขามีชื่อเสียงขึ้นมาจากการปรับตัวและใช้กลยุทธ์ในการตั้งรับข้าศึกจนสามารถมีชัยนับครั้งไม่ถ้วนเหนือข้าศึกที่มีกำลังเหนือกว่า ในขณะที่ตัวเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บน้อยมาก เขาจึงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้บัญชาฝ่ายตั้งรับตลอดกาล กลยุทธ์และแผนการรบของเขาจำนวนมากถูกนำไปสอนในวิทยาลัยการทหารชั้นนำของโลก
ภายหลังออกจากราชการทหาร เขาก็กลับคืนสู่งานการเมือง โดยได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสองสมัยโดยสังกัดพรรคทอรี ระหว่างปี 1828 ถึง 1830 และอีกครั้งเป็นช่วงเวลาไม่ถึงเดือนในปี 1834 ต่อมาเขาได้ดำรงตำแหน่งผู้นำในสภาขุนนาง จนกระทั่งเกษียณอายุแต่ยังคงเป็นผู้บัญชาการกองทัพอังกฤษจนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรม