ป๋วย อึ๊งภากรณ์
From Wikipedia, the free encyclopedia
ศาสตราจารย์ พันตรี ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ม.ป.ช. ม.ว.ม. ท.จ.ว. MBE (9 มีนาคม พ.ศ. 2459 — 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2542) เป็นนักเศรษฐศาสตร์ชาวไทย ผู้เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย[3] ที่มีอายุน้อยที่สุด ด้วยวัย 43 ปี 3 เดือน[4] และได้ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุด[5] และอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คนที่ 10
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
ป๋วย อึ๊งภากรณ์ | |
---|---|
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย | |
ดำรงตำแหน่ง 11 มิถุนายน พ.ศ. 2502 – 15 สิงหาคม พ.ศ. 2514 (12 ปี 65 วัน) | |
ก่อนหน้า | โชติ คุณะเกษม |
ถัดไป | พิสุทธิ์ นิมมานเหมินท์ |
อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |
ดำรงตำแหน่ง 30 มกราคม พ.ศ. 2518 – 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 (1 ปี 249 วัน) | |
ก่อนหน้า | ศ.ดร.อดุล วิเชียรเจริญ (รักษาการ) |
ถัดไป | ศ.คุณหญิงนงเยาว์ ชัยเสรี (รักษาการ) |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 9 มีนาคม พ.ศ. 2459 จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 (83 ปี) ลอนดอน ประเทศอังกฤษ |
คู่สมรส | มาร์เกรท สมิท |
บุตร | จอน อึ๊งภากรณ์ ไมตรี อึ๊งภากรณ์ ใจ อึ๊งภากรณ์ |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยลอนดอน |
อาชีพ | นักเศรษฐศาสตร์, อาจารย์ |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | |
สังกัด | กองทัพบกสหราชอาณาจักร |
ประจำการ | 2485–2488 |
ยศ | พันตรี (ชั่วคราว)[1] |
หน่วย | กองกำลัง 136 ช้างเผือก[2] |
สงคราม/การสู้รบ | ปฏิบัติการแอพพรีชีเอชั่น (2487) |
รางวัล | MBE ฝ่ายทหาร |
เขาเกิดและเติบโตจากครอบครัวชาวจีน สำเร็จการศึกษาธรรมศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยเข้าร่วมพันธมิตรกับญี่ปุ่น ป๋วยก็ได้ร่วมก่อตั้งคณะเสรีไทยขึ้นในประเทศอังกฤษ หนหนึ่งเขาเสี่ยงชีวิตลอบกระโดดร่มเข้าไทย ณ บ้านวังน้ำขาว จังหวัดชัยนาท จนได้ชื่อว่าเป็น “วีรบุรุษวังน้ำขาว”[6][7] เมื่อสงครามยุติลง ประเทศไทยจึงไม่ถือเป็นผู้แพ้สงคราม ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เขาก็ได้รับหน้าที่เป็นทั้งผู้ว่าธนาคารแห่งชาติ รวมถึงยังได้รับตำแหน่งทั้งคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์และอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ป๋วยได้แสดงความกล้าหาญ หลายครั้งโดยเฉพาะการส่งจดหมายในนาม "นายเข้ม เย็นยิ่ง" ถึงจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยให้กับสังคม จุดประกายให้กับขบวนการ 14 ตุลาคม 2516 ด้วยความที่เขาได้รับการชื่นชมมากมายจากสังคม[8] ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ป๋วยก็ถูกทั้งฝ่ายซ้าย ฝ่ายขวา ออกมาโจมตีกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ จนในที่สุดก็ต้องออกเดินทางลี้ภัยไปต่างประเทศ และเสียชีวิตลงในวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 ที่ประเทศอังกฤษ
สเตฟาน คอลินยองส์ (Stefan Collingnon) นักวิชาการร่วมสมัยชาวเยอรมัน[9] ได้กล่าวยกย่องป๋วยว่าเป็น "บิดาของเมืองไทยสมัยใหม่" (Founding Father of Modern Thailand) ในฐานะผู้วางรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย[10] ป๋วยได้รับ รางวัลแมกไซไซ สาขาบริการสาธารณะ ในปี พ.ศ. 2508 และได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ในปี พ.ศ. 2558[11][12]