ธรรมเนียมเตอร์กิก-มองโกล
การสังเคราะห์ทางวัฒนธรรมชาติพันธุ์ที่เกิดขึ้นในเอเชียช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 / From Wikipedia, the free encyclopedia
ธรรมเนียมเตอร์กิก-มองโกล (อังกฤษ: Turco-Mongol tradition; บางครั้งสะกด Turko-Mongol) เป็นการสังเคราะห์ทางวัฒนธรรมชาติพันธุ์ที่เกิดขึ้นในเอเชียช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ในหมู่ชนชั้นปกครองของโกลเดนฮอร์ดและจักรวรรดิข่านชากาทาย ภายหลังชนชั้นนำเหล่านี้กลืนกลายเข้ากับกลุ่มชนเตอร์กิกที่พวกเขาพิชิตและปกครองจนกลายเป็นกลุ่มชนเตอร์กิก-มองโกล ชนชั้นนำยังค่อย ๆ เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม (จากเดิมที่นับถือศาสนาเท็งกรี) และใช้กลุ่มภาษาเตอร์กิก แต่ยังคงรักษาสถาบันการเมืองและกฎหมายแบบมองโกล[1]
กลุ่มชนเตอร์กิก-มองโกลก่อตั้งรัฐสืบทอดอิสลามหลายแห่งหลังการล่มสลายของรัฐข่านมองโกล เช่น รัฐข่านคาซัคและตาตาร์ที่เกิดขึ้นหลังโกลเดนฮอร์ด (เช่น รัฐข่านไครเมีย รัฐข่านอัสตราฮันและรัฐข่านคาซัน) และจักรวรรดิเตมือร์ที่สืบทอดจักรวรรดิข่านชากาทายในเอเชียกลาง จักรพรรดิบาบูร์ เจ้าชายชาวเตอร์กิก-มองโกลและลืบของเตมือร์ก่อตั้งจักรวรรดิโมกุล ซึ่งครอบครองเกือบทั่วอนุทวีปอินเดีย[2][3] นอกจากนี้ชาวเตอร์กิกและตาตาร์ยังมีอำนาจการเมืองและทหารนำในอียิปต์สมัยรัฐสุลต่านมัมลูก[4][5][6][7][8][9]
ชนชั้นนำเตอร์กิก-มองโกลกลายเป็นผู้อุปถัมภ์ธรรมเนียมเตอร์กิก-เปอร์เซีย อันเป็นวัฒนธรรมเด่นในหมู่มุสลิมเอเชียกลางขณะนั้น วัฒนธรรมเตอร์กิก-เปอร์เซียแพร่ไปพร้อมการขยายอำนาจของชาวเตอร์กิก-มองโกลในภูมิภาคใกล้เคียงในศตวรรษต่อมา จนกลายเป็นวัฒนธรรมเด่นของชนชั้นปกครองในเอเชียใต้ (อนุทวีปอินเดีย) โดยเฉพาะอินเดียเหนือ (จักรวรรดิโมกุล) เอเชียกลาง แอ่งทาริม (ตะวันตกเฉียงเหนือของจีน) และส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันตก (ตะวันออกกลาง)[10]