การสังหารหมู่ที่นังกาปัรบัต พ.ศ. 2556
From Wikipedia, the free encyclopedia
การสังหารหมู่ที่นังกาปัรบัตในคืนวันที่ 22 มิถุนายน 2013 เป็นการก่อการร้ายในแคว้นกิลกิต-บัลติสถาน ประเทศปากีสถาน กองกำลังติดอาวุธจำนวน 16 คน แต่งกายด้วยเครื่องแบบของลูกเสือกิลกิต-บัลติสถาน เข้าโจมตีเบสแคมป์ของนักไต่เขา และสังหารเหยื่อ 11 คน ซึ่งประกอบด้วยนักไต่เขา 10 คน และผู้นำเที่ยวชาวท้องถิ่นหนึ่งคน[1] กลุ่มนักไต่เขาที่ถูกสังหารมาจากหลายประเทศ ได้แก่ ยูเครน, จีน, สโลวาเกีย, ลิธัวเนีย และ เนปาล[2][3][4] นักไต่เขาในเบสแคมป์ที่รอดชีวิตจากการสังหารหมู่ได้แก่พลเมืองชาวจีนซึ่งหลบหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุขณะเกิดการโจมตี และพลเมืองของลัตเวียที่บังเอิญอยู่นอกเบสแคมป์ตอนเกิดเหตุพอดี[5] จุดเกิดเหตุเป็นเบสแคมป์แห่งหนึ่งสำหรับไต่เขาไปยังยอดเขานังกาปัรบัต ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดอันดับเก้าของโลก[6] เชานี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักไต่เขาและเดินทางไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมซึ่งสภาพอากาศเป็นใจต่อการเดินทาง[6]
การสังหารที่เขานังกาปัรบัต | |
---|---|
เป็นส่วนหนึ่งของสงครามในปากีสถานตะวันตดเฉียงเหนือ | |
เบสแคมป์ที่เกิดเหตุ ในฉากหลังคือยอดเขานังกาปัรบัต | |
สถานที่ | เบสแคมป์ของเขานังกาปัรบัต แคว้นกิลกิต-บัลติสถาน ประเทศปากีสถาน |
วันที่ | 22 มิถุนายน ค.ศ. 2013 (2013-06-22) – 23 มิถุนายน ค.ศ. 2013 (2013-06-23) 10:00 p.m.–12:00 a.m. (เวลากลางปากีสถาน, UTC+05:00) |
เป้าหมาย | กลุ่มนักไต่เขาชาวต่างชาติ |
ประเภท | กราดยิงหมู่ |
ตาย | 11 |
เจ็บ | 2 |
ผู้ก่อเหตุ | เตห์รีกีตาลิบาน |
เหตุจูงใจ | ตอบโต้การโจมตีด้วยโดรนของอเมริกันในไคเบอร์ |
ในเดือนพฤศจิกายน 2013 ผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่ถูกจับกุมและตัดสินมีความผิดภายใต้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายของปากีสถาน อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ถูกปล่อยตัวในไม่เกินปี 2014 และตัวตนของผู้ก่อเหตุไม่เคยได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ คณะกรรมการการต่างประเทศของวุฒิสภาปากีสถานเชื่อว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุแรกเริ่มไม่ใช่การสังหารนักท่องเที่ยวเหล่านี้ แต่จะเป็นการลักพาตัวไปเพื่อเรียกค่าไถ่มากกว่า[7]
เหตุการณ์นี้ถือเป็นการโจมตีนักไต่เขาครั้งแรกในภูมิภาคกิลกิต-บัลติสถานของปากีสถาน ที่ซึ่งก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นพื้นที่ปลอดกองกำลังติดอาวุธ ยกเว้นแต่เพียงการโจมตีชาวมุสลิมชีอะฮ์ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย เป็นครั้งคราเท่านั้น[4][6][8]
ข้อมูลในภายหลังทราบว่าแผนการของกลุ่มก่อการร้ายคือการลักพาตัว เฉิน หงลู่ (Chen Honglu) พลเมืองสองสัญชาติที่ถือสัญชาติอเมริกันและจีน และนำตัวเขาไปแลกเปลี่ยนเอาตัวผู้บังคับบัญชาของตอลิบานคนหนึ่งในอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตาม ขณะก่อเหตุโจมตี เฉินพุ่งตัวออกมาจากเต็นต์และล้มผู้ก่อเหตุคนหนึ่งโดยใช้เทคนิกศิลปะการต่อสู้ ผู้ก่อเหตุที่ถูกเฉินโจมตีตกใจและยิงเฉิน ทำให้เป้าหมายหลักของการโจมตีในครั้งนี้เสียไป ทำให้ผู้นำการก่อการร้ายครั้งนี้โกรธมาก นักไต่เขาที่เหลือในเบสแคมป์จึงถูกจับตัวมักเข้ากับเสา และถูกยิงทิ้งจนหมด หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุจึงเดินเท้าราวห้าชั่วโมงไปยังหมู่บ้านห่างไกลแห่งหนึ่ง ถอดเครื่องแบบไปฝัง กินข้าวเช้า เดินเท้าต่อไปอีกหมู่บ้าน และแยกย้าย[9]